7 เทคนิคติดฟิล์มรถยนต์ให้เรียบ ไม่เป็นฟองอากาศ

7 เทคนิคติดฟิล์มรถยนต์ให้เรียบ ไม่เป็นฟองอากาศ เป็นสิ่งที่เจ้าของรถหลายท่านกังวลใจเมื่อคิดจะติดฟิล์มเอง หรือแม้แต่เมื่อช่างติดตั้งฟิล์มให้ก็ยังอยากรู้เทคนิคการติดฟิล์มให้ไร้ที่ติ เพราะฟิล์มที่ติดไม่เรียบ มีฟองอากาศ หรือมีรอยยับย่น นอกจากจะดูไม่สวยงามแล้ว ยังลดทัศนวิสัยในการขับขี่อีกด้วย บทความนี้จะมาเผยเคล็ดลับ 7 ข้อ ที่จะช่วยให้การติดฟิล์มรถยนต์ของคุณเป็นเรื่องง่าย และได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน ไร้ที่ติ เหมือนมืออาชีพ

1. การเตรียมพื้นผิวที่สะอาดหมดจด คือหัวใจสำคัญ

ก่อนเริ่มต้นติดฟิล์มรถยนต์ การเตรียมพื้นผิวของกระจกให้สะอาดไร้ฝุ่นละออง คราบสกปรก หรือไขมัน ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะสิ่งสกปรกเล็กน้อยก็อาจทำให้เกิดฟองอากาศหรือรอยยับได้

1.1 ล้างทำความสะอาดกระจกให้ทั่วถึง

ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดกระจกโดยเฉพาะ ผสมน้ำเล็กน้อย หรือน้ำยาสำหรับติดฟิล์มโดยตรง ฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณกระจกที่จะติดฟิล์ม จากนั้นใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วถึงหลายๆ รอบ โดยเน้นบริเวณขอบกระจกและมุมต่างๆ ที่มักมีสิ่งสกปรกสะสม

1.2 ขูดคราบสกปรกฝังแน่นด้วยใบมีด

สำหรับคราบสกปรกที่ฝังแน่น เช่น คราบแมลง ยางมะตอย หรือกาวเก่า ให้ใช้ใบมีดโกนคมๆ หรือมีดโกนสำหรับติดฟิล์มโดยเฉพาะ ค่อยๆ ขูดออกอย่างเบามือ ระมัดระวังอย่าให้ใบมีดขูดโดนเนื้อกระจกโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ หลังขูดเสร็จ ให้เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง

2. ตัดฟิล์มให้พอดีและแม่นยำ

การตัดฟิล์มให้ได้ขนาดที่เหมาะสมกับกระจกแต่ละบานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้ฟิล์มมีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป ซึ่งจะทำให้ติดยากและดูไม่สวยงาม

2.1 วัดขนาดกระจกอย่างละเอียด

ใช้ตลับเมตรวัดขนาดความกว้างและความยาวของกระจกแต่ละบานอย่างละเอียด และจดบันทึกไว้ จากนั้นเผื่อขนาดฟิล์มให้ใหญ่กว่าเล็กน้อยประมาณ 1-2 นิ้ว ในแต่ละด้าน เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการปรับแต่ง

2.2 ใช้คัตเตอร์ที่คมและแผ่นรองตัดฟิล์ม

วางฟิล์มลงบนแผ่นรองตัดฟิล์ม หรือพื้นผิวเรียบที่สะอาด ใช้ไม้บรรทัดเหล็กทาบ และใช้คัตเตอร์ที่คมกริบตัดฟิล์มตามขนาดที่วัดไว้ การใช้คัตเตอร์ที่คมจะช่วยให้รอยตัดเรียบเนียน ไม่ฉีกขาด

3. พ่นน้ำยาให้ทั่วก่อนวางฟิล์ม

การพ่นน้ำยาลงบนพื้นผิวกระจกก่อนวางฟิล์มจะช่วยให้ฟิล์มสามารถเลื่อนปรับตำแหน่งได้ง่ายขึ้น และไล่ฟองอากาศออกได้สะดวก

3.1 ใช้น้ำยาสำหรับติดฟิล์มโดยเฉพาะ

ใช้น้ำยาสำหรับติดฟิล์มโดยเฉพาะ บรรจุในขวดสเปรย์แบบหัวพ่นฝอยละเอียด ฉีดพ่นให้ทั่วพื้นผิวกระจกที่จะติดฟิล์ม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำยาครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ไม่มีจุดใดแห้ง

3.2 พ่นน้ำยาที่ด้านกาวของฟิล์ม

เมื่อลอกแผ่นพลาสติกใสที่เคลือบด้านกาวของฟิล์มออก ให้ฉีดพ่นน้ำยาที่ด้านกาวของฟิล์มให้ทั่วถึงเช่นกัน วิธีนี้จะช่วยลดแรงตึงผิวของกาว ทำให้ฟิล์มไม่ติดหนึบทันที และสามารถปรับตำแหน่งได้

4. การวางฟิล์มที่ถูกต้องและใจเย็น

เมื่อพื้นผิวพร้อม ฟิล์มพร้อม ก็ถึงขั้นตอนการวางฟิล์มลงบนกระจก ซึ่งต้องทำด้วยความใจเย็นและแม่นยำ

4.1 เริ่มวางจากมุมใดมุมหนึ่ง

ค่อยๆ วางฟิล์มลงบนกระจก โดยเริ่มจากมุมใดมุมหนึ่งของฟิล์มและกระจก ค่อยๆ ปล่อยฟิล์มลงไปช้าๆ โดยใช้มือประคองไปพร้อมๆ กัน

4.2 ตรวจสอบตำแหน่งและปรับแต่ง

เมื่อวางฟิล์มลงไปแล้ว ให้ตรวจสอบตำแหน่งของฟิล์มว่าตรงกับขอบกระจกหรือไม่ หากไม่ตรง สามารถขยับปรับตำแหน่งฟิล์มได้ เพราะมีน้ำยาเป็นตัวช่วยหล่อลื่น

5. การไล่น้ำและฟองอากาศอย่างถูกวิธี

นี่คือหัวใจสำคัญของการติดฟิล์มให้เรียบเนียน ไร้ฟองอากาศ การไล่น้ำและฟองอากาศต้องทำอย่างเป็นระบบและถูกวิธี

5.1 ใช้อุปกรณ์ไล่น้ำ (รีดเดอร์) ที่เหมาะสม

ใช้อุปกรณ์ไล่น้ำ หรือ “รีดเดอร์” ที่มีลักษณะเป็นแผ่นยางแข็งหรือพลาสติกอ่อนนุ่ม ขอบเรียบ เพื่อไล่น้ำและฟองอากาศออกไป โดยไม่ทำให้ฟิล์มเป็นรอย

5.2 รีดจากกึ่งกลางออกสู่ขอบ

เริ่มรีดจากกึ่งกลางของฟิล์มออกไปยังขอบกระจก ค่อยๆ รีดออกไปอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ ออกแรงกดพอประมาณ เพื่อให้น้ำและฟองอากาศถูกดันออกมาจนหมด ทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง จนแน่ใจว่าไม่มีฟองอากาศหลงเหลืออยู่

6. การเก็บขอบฟิล์มให้สวยงาม

หลังจากไล่น้ำและฟองอากาศออกจนหมดแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการเก็บขอบฟิล์มให้เรียบร้อย สวยงาม และแนบสนิทกับขอบกระจก

6.1 ตัดขอบฟิล์มส่วนเกินออก

ใช้คัตเตอร์ที่คมกริบ ตัดขอบฟิล์มส่วนเกินที่ยื่นออกมาจากขอบกระจกออกอย่างระมัดระวัง โดยใช้ขอบกระจกเป็นแนวในการตัด เพื่อให้รอยตัดเรียบและแนบสนิท

6.2 ใช้ผ้าเช็ดเก็บรายละเอียด

ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดและแห้ง เช็ดทำความสะอาดคราบน้ำยาที่อาจจะเลอะขอบกระจก หรือบริเวณโดยรอบ เพื่อให้งานดูเรียบร้อยและสมบูรณ์แบบ

7. การดูแลหลังการติดตั้ง

เมื่อติดฟิล์มเสร็จแล้ว การดูแลรักษาในช่วงแรกก็มีความสำคัญ เพื่อให้ฟิล์มเซ็ตตัวและติดแน่นทนนาน

7.1 งดใช้กระจกเลื่อนขึ้นลง 2-3 วัน

หลังจากติดฟิล์มเสร็จ ควรงดการเลื่อนกระจกขึ้นลงเป็นเวลา 2-3 วัน เพื่อให้น้ำยาใต้ฟิล์มแห้งสนิทและกาวของฟิล์มยึดติดกับกระจกได้เต็มที่ หากเลื่อนกระจกเร็วเกินไป ฟิล์มอาจเลื่อนหลุดหรือยับได้

7.2 หลีกเลี่ยงการล้างรถด้วยแรงดันสูง

ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการติดฟิล์ม ควรงดการล้างรถด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงโดยตรงที่บริเวณฟิล์ม เพราะแรงดันอาจทำให้ฟิล์มหลุดล่อน หรือเสียหายได้ ควรใช้วิธีล้างแบบปกติ หรือเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มๆ แทน

การติดฟิล์มรถยนต์ด้วยตัวเองอาจต้องอาศัยความละเอียดอ่อนและความอดทน แต่ด้วย 7 เทคนิคติดฟิล์มรถยนต์ให้เรียบ ไม่เป็นฟองอากาศ เหล่านี้ รับรองว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และไม่ต้องเสียเงินให้ช่างติดตั้งอีกต่อไป ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับการติดฟิล์มรถยนต์ของคุณดูนะครับ หากมีข้อสงสัยหรืออยากแบ่งปันประสบการณ์ สามารถคอมเมนต์พูดคุยกันได้เลย!

ใส่ความเห็น