5 จุดเสี่ยงที่ควรติดฟิล์มป้องกันรอย ก่อนจะสายเกินไป

5 จุดเสี่ยงที่ควรติดฟิล์มป้องกันรอย บนรถยนต์ของคุณ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อปกป้องรถที่คุณรักจากรอยขีดข่วนที่ไม่คาดคิด ฟิล์มกันรอยรถยนต์ หรือ Paint Protection Film (PPF) เป็นเสมือนเกราะป้องกันบางใสที่ช่วยรักษาสภาพสีรถให้เหมือนใหม่เสมอ มาดูกันว่าจุดไหนบ้างบนรถยนต์ของคุณที่เสี่ยงต่อการเกิดรอยมากที่สุดและควรติดฟิล์มป้องกันรอยก่อนจะสายเกินไป

1. บริเวณกันชนหน้าและฝากระโปรงหน้า: แนวปะทะแรกกับสิ่งแปลกปลอม

กันชนหน้า: จุดรวมรอยหินกระเด็นและแมลง

กันชนหน้าเป็นส่วนแรกของรถที่ต้องเผชิญหน้ากับเศษหิน ดิน ทราย และแมลงต่างๆ ที่กระเด็นขึ้นมาระหว่างการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง รอยเล็กๆ เหล่านี้อาจดูไม่รุนแรงในตอนแรก แต่เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ จะทำให้สีรถบริเวณนั้นดูหมองและเสียหายได้ การติดฟิล์มกันรอยจะช่วยดูดซับแรงกระแทกจากเศษวัสดุเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฝากระโปรงหน้า: ความเสี่ยงจากสะเก็ดหินและรอยขนแมว

ฝากระโปรงหน้าเป็นอีกจุดที่ได้รับผลกระทบจากสะเก็ดหินที่กระเด็นมาจากรถคันหน้า รวมถึงฝุ่นละอองและรอยขนแมวจากการเช็ดทำความสะอาดที่ไม่ถูกวิธี ฟิล์ม PPF จะช่วยให้พื้นผิวเรียบลื่น ลดการยึดเกาะของสิ่งสกปรก และทำให้การทำความสะอาดง่ายขึ้นมาก

2. ขอบประตูและเบ้ามือจับประตู: รอยขีดข่วนที่เกิดขึ้นได้ง่ายในชีวิตประจำวัน

ขอบประตู: บาดแผลจากการเปิด-ปิด

การเปิด-ปิดประตูโดยไม่ระมัดระวัง หรือการกระแทกกับสิ่งกีดขวาง เช่น กำแพง เสา หรือรถคันอื่น เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนและสีถลอกบริเวณขอบประตู ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นได้ชัดและลดทอนความสวยงามของรถได้ง่าย ฟิล์มกันรอยที่ขอบประตูจะช่วยป้องกันความเสียหายเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

เบ้ามือจับประตู: รอยเล็บและแหวน

บริเวณเบ้ามือจับประตูเป็นจุดที่สัมผัสบ่อยที่สุดในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นรอยเล็บมือ แหวน หรือแม้กระทั่งกุญแจรถที่อาจขูดขีดโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นรอยเล็กๆ แต่เมื่อเกิดขึ้นบ่อยครั้งก็ทำให้สีรถบริเวณนั้นดูเก่าและไม่น่ามอง การติดฟิล์มกันรอยบริเวณเบ้ามือจับจะช่วยรักษาความเงางามของสีรถได้อย่างยาวนาน

3. ชายบันไดและขอบประตูภายใน: จุดที่ถูกเหยียบย่ำและเสียดสีบ่อยครั้ง

ชายบันได: รอยจากการก้าวขึ้น-ลง

ขณะที่เราก้าวขึ้น-ลงจากรถ เท้าและรองเท้าของเรามักจะไปเสียดสีกับชายบันได ทำให้เกิดรอยขีดข่วน คราบสกปรก หรือแม้กระทั่งรอยถลอกของสีได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุที่ต้องพยุงตัวขึ้นลงบ่อยๆ การติดฟิล์มกันรอยบริเวณชายบันไดจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาสภาพเดิมของรถ

ขอบประตูภายใน: การเสียดสีจากการเข้า-ออก

นอกจากชายบันไดแล้ว ขอบประตูภายในด้านล่างก็เป็นอีกจุดที่มักเกิดรอยขีดข่วนจากการเสียดสีกับรองเท้าหรือสิ่งของต่างๆ ที่เรานำเข้า-ออกรถ การติดฟิล์ม PPF ในบริเวณนี้จะช่วยให้คุณหมดกังวลเรื่องรอยขีดข่วนที่เกิดจากกิจกรรมประจำวันเหล่านี้

4. เสาประตู (B-Pillar) และชายล่างประตู: จุดที่มักถูกละเลยแต่เกิดรอยง่าย

เสาประตู (B-Pillar): รอยจากเข็มขัดนิรภัยและการเช็ดทำความสะอาด

เสาประตูรถยนต์ โดยเฉพาะบริเวณ B-Pillar (เสากลางระหว่างประตูหน้าและหลัง) มักจะเกิดรอยขีดข่วนจากการที่เข็มขัดนิรภัยกระแทก หรือจากการเช็ดทำความสะอาดที่ไม่ระมัดระวัง รอยเหล่านี้มักจะมองเห็นได้ชัดเจนเนื่องจากเป็นพื้นผิวสีดำเงา การติดฟิล์มกันรอยจะช่วยปกป้องพื้นผิวให้เงางามอยู่เสมอ

ชายล่างประตู: ความเสี่ยงจากเศษหินและโคลน

ชายล่างประตูเป็นจุดที่อยู่ใกล้พื้นถนนมากที่สุด ทำให้เสี่ยงต่อการกระเด็นของเศษหิน โคลน หรือน้ำสกปรกต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่เรียบ ฟิล์มกันรอยบริเวณนี้จะช่วยป้องกันการเกิดรอยถลอกและคราบสกปรกฝังแน่นได้ดีเยี่ยม

5. ช่องเติมน้ำมัน: รอยจากการใช้งานที่ไม่คาดคิด

รอยจากการวางหัวจ่ายหรือหยดน้ำมัน

ช่องเติมน้ำมันเป็นอีกจุดที่มักถูกมองข้าม แต่กลับเกิดรอยได้ง่าย เช่น รอยจากการวางหัวจ่ายน้ำมันกระแทก การเช็ดทำความสะอาดที่รุนแรงเกินไป หรือแม้แต่หยดน้ำมันที่อาจไหลเยิ้มลงมา การติดฟิล์มกันรอยบริเวณรอบๆ ช่องเติมน้ำมันจะช่วยป้องกันความเสียหายเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะเติมน้ำมัน

การติดฟิล์มป้องกันรอยไม่ใช่แค่การรักษาสีรถให้สวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษามูลค่าของรถยนต์ในระยะยาวอีกด้วย การตัดสินใจติดฟิล์ม PPF ใน 5 จุดเสี่ยงที่ควรติดฟิล์มป้องกันรอย เหล่านี้ก่อนที่รอยขีดข่วนจะสะสมจนแก้ไขได้ยาก เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น

หากคุณกำลังพิจารณาติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกประเภทฟิล์มที่เหมาะสมและการติดตั้งที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้รถของคุณได้รับการปกป้องอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

มีจุดอื่นบนรถที่คุณกังวลเรื่องรอยขีดข่วนเป็นพิเศษไหม?

ใส่ความเห็น